สูตรเสือ – มังกร รวมสูตรและวิธีเดินเงิน ที่ต้องดูถ้าอยากชนะเดิมพัน

สูตรเสือ – มังกร รวมสูตรและวิธีเดินเงิน ที่ต้องดูถ้าอยากชนะเดิมพัน

สูตรเสือ – มังกร เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วในหมู่นักเดิมพันว่า เสือมังกร เป็นเกมไพ่ที่ใช้เวลาน้อยที่สุดแทบจะเรียกว่าเป็นไพ่ที่โหดที่สุดก็ได้ ไม่ใช่เพราะว่ามันเล่นยากนะ แต่เพราะมันต้องใช้การตัดสินใจที่แม่นยำพ่วงกับดวงอีกพอประมาณ ที่สำคัญมันสามารถทำให้เราตัวแตกได้ไวอีกด้วย วันนี้ผมก็เลยไปหาสูตร เสือมังกร ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสชนะให้กับเรา พร้อมกับ วิธีเดินเงิน ที่จะช่วยให้เราได้กำไรจาก คาสิโนออนไลน์ มากกว่าเดิมมาฝากกัน ไปดูกันดีกว่าว่าสูตรนี้เขาใช้ยังไง และให้ผลตอบแทนดีแค่ไหน Lottosod

สูตรเสือ - มังกร

สูตรเสือ – มังกร สูตรการอ่านเค้าไพ่

เนื่องจากวิธีเล่น เสือมังกร จะคล้ายกับไพ่บาคาร่าก็คือเราต้องทายว่าฝั่งไหนจะชนะ หรือว่าผลจะออกมาเสมอ สิ่งที่ต่างกันก็คือ บาคาร่า จะมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 ออกมา รวมถึงมีกฎกติกาที่ซับซ้อนกว่าจึงใช้เวลาในการตัดสินผลแพ้ชนะ แถมยังมีการหักค่าคอมมิชชั่นหากเราทายถูกว่าฝั่งเจ้ามือชนะอีกด้วย ขณะที่ เสือมังกร ใช้แค่ไพ่ใบเดียวตัดสินผลกันได้เลย ไม่ต้องเสียค่าคอมแม้แต่บาทเดียว ข้อเสียอย่างเดียวก็คือ ถ้าหากผลออกมาเป็นเสมอ แต่เราไม่ได้ทายว่าเสมอจะไม่มีการคืนเดิมพัน ถึงอย่างนั้นก็มี คาสิโนออนไลน์ บางเจ้าเขาคืนให้ 50%

สำหรับสูตรเสือมังกรที่นิยมใช้ก็คือการอ่านเค้าไพ่ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับการเล่นไพ่บาคาร่า ถือได้ว่าเป็นวิธีที่มีความแม่นยำระดับนึง โดยเค้าไพ่ที่นิยมใช้กันก็คือ เค้าไพ่ปิงปอง กับ เค้าไพ่มังกร เพราะสองแบบนี้อ่านง่ายไม่ต้องคิดให้วุ่นวาย มีโอกาสที่จะชนะมากกว่า 2 ตาอยู่แล้ว

ในการอ่านเค้าไพ่ เสือมังกร เราจะดูกันที่ขอนไพ่หรือตารางออกรางวัลตลอดเกมซึ่งจะมีแสดงไว้อยู่ทุกโต๊ะทุกห้อง ส่วนลักษณะเค้าไพ่จะเป็นดังนี้

เค้าไพ่ปิงปอง

หรือมีอีกชื่อว่า เค้าไพ่สลับ คือมันจะออกผลรางวัลสลับไปมาสองฝั่งเหมือนกับเราตีปิงปอง วิธีการอ่านให้ดูว่าใน 3 ครั้งล่าสุดผลออกมาสลับฝั่งชนะกันหรือไม่ เช่น มังกร – เสือ – มังกร หรือ เสือ – มังกร – เสือ หากเป็นลักษณะนี้ในตาต่อไปให้เราวางเดิมพันในฝั่งตรงกันข้ามของครั้งล่าสุด สมมติว่าผลที่ออกคือ เสือ – มังกร – เสือ ตาต่อไปเราวางเดิมพันฝั่งมังกรรอได้เลยครับ

เค้าไพ่มังกร

ลักษณะของผลรางวัลคือจะออกฝั่งใดฝั่งหนึ่งติดกันยาว ๆ อย่างน้อย 4 ครั้ง ตรงนี้ให้เราดูว่าใน 4 ครั้งล่าสุดมันออกแค่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งเท่านั้นหรือไม่ เช่น มังกร – มังกร – มังกร – มังกร หรือ เสือ – เสือ – เสือ – เสือ เป็นต้น หากออกแบบนี้ตาต่อไปให้เราแทงตามได้เลย สมมติว่า 4 ครั้งล่าสุดออกแต่ฝั่งเสือ อย่างนี้ให้เราแทงเสือตามครับ

อันที่จริงแล้วเค้าไพ่ไม่ได้มีแค่สองแบบนี้เท่านี้ มันยังมีอีกหลายรูปแบบ เพียงแต่เค้าไพ่ปิงปองกับเค้าไพ่มังกรมันอ่านง่ายเข้าใจเร็ว ส่วนใครที่สนใจศึกษาเค้าไพ่รูปแบบอื่นได้ยิ่งดี มันจะช่วยให้เรามีโอกาสชนะมากยิ่งขึ้น

การอ่านเค้าไพ่เก่งก็ไม่ได้มีอะไรมารับประกันนะครับว่าเราจะสามารถเอาชนะไปได้ตลอด ยังไงมันก็ต้องมีครั้งที่พลาดกันบ้าง การรู้จักวิธีเดินเงินจึงเป็นอีกเรื่องที่ควรศึกษาไว้ อย่างน้อยถึงจะแพ้แต่ก็ควรแพ้แบบไม่เสียเงิน ซึ่งสูตรเดินเงินที่ใช้ในวงการ คาสิโนออนไลน์ ก็มีมากมายอีกเช่นกัน ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่าครับว่าสูตรเดินเงินตัวไหนที่เหมาะกับ เสือมังกร

สูตรเสือ – มังกรสูตรเดินเงิน

 เล่นพนันทั้งทีต้องเล่นให้ได้ แพ้ให้เป็น ที่สำคัญคือแพ้อย่างไรไม่ให้เสียเงิน และนี่ก็คือ 2 สูตรเดินเงินที่ผมจะพาไปรู้จักกัน โดยสูตรแรกได้รับการการันตีจากเหล่าเซียนพนันกันแล้วว่าต่อให้เสียมา 4 ครั้ง 4 ครา แต่ถ้าครั้งที่ 5 เราชนะยังไงก็ได้ทุนคืนแถมได้กำไรอีกต่างหาก ส่วนสูตรที่ 2 ต่อให้แพ้มาแค่ไหน แค่เอาชนะให้ได้ 3 ครั้ง ก็ได้ทุนคืนแน่นอน ไปดูกันดีกว่าครับว่ามันคือสูตรอะไร ใช้ยังไง มีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดหรือไม่

สูตรเดินเงิน Martingale

ถือได้ว่าเป็นสูตรเดินเงินยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของคนเล่น เสือมังกร กันเลยทีเดียว ระบบเดินเงินจะแบ่งการวางเดิมพันออกเป็น 5 รอบ หรือที่เรียกกันว่า 5 ระยะ / ไม้ วิธีใช้งานก็ง่าย ๆ คือเราจะต้องทบเดิมพันไป 1 เท่าของเดิมพันในรอบที่แพ้ล่าสุด ทำแบบนี้ไปจนกว่าจะชนะ หากชนะก็ให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ จุดเด่นของมันก็คือเรามีโอกาสแพ้มากถึง 4 ครั้ง ถ้าหากสามารถเอาชนะในครั้งที่ 5 ได้ เราจะได้รับเงินทุนที่เสียไปทั้งหมดกลับคืนมาบวกด้วยกำไรอีก 1 หน่วย

ส่วนคนที่จะใช้สูตรเดินเงินตัวนี้ได้จำเป็นต้องมีเงินทุนอย่างน้อย 100 หน่วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราจะวางเดิมพันครั้งละ 100 บาท ก็จำเป็นต้องมีเงินทุนไว้สัก 10,000 บาทนั่นเอง

สูตรเดินเงิน Fiboncci

สูตรนี้จะใช้วิธีการวางเดิมพันเป็นสเตปด้วยหลักการตัวเลขที่อนุกรมกัน เป็นสูตรที่คิดค้นด้วยหลักการทางคณิตศาสตร์ และเมื่อนำมาใช้กับการเล่น เสือมังกร แล้วถือว่าใช้เงินทุนน้อยกว่า Martingale มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า เหมาะกับคนที่อยากนั่งเล่นนาน ๆ สำหรับวิธีการเดินเงินคือ 1 – 1 – 2 – 3 – 5 – 8 – 13 – 21 – 34 – 55 ยกตัวอย่างเช่น

  • ถ้าเดิมพันแล้วแพ้ ทบเงินเดิมพันขึ้นไป 1 สเตป
  • ถ้าเดิมพันแล้วชนะ ลดสเตปการเดิมพันลง 2 สเตป

วิธีการเดินเงินแบบนี้จะให้กำไรได้ดีในระยะยาม ยิ่งชนะเราก็ยิ่งแช่อยู่ที่สเตป 1 ไปเรื่อย ๆ แต่ก็ต้องระวังไปติดอยู่ระหว่างสเตป 3 – 5 ด้วย แม้ว่าช่วงนั้นเราจะสลับกันแพ้ชนะ แต่มันก็ทำให้เงินของเราค่อย ๆ ลดลงอย่างไม่ทันรู้ตัวเหมือนกัน

สามารถติดตามบทความดีๆได้ที่นี่